จากการอ่านเรื่องmotorสรุปได้ว่า
Motor คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนฟลังงงานไฟฟ้าเป้นพลังงานกล มีหลักการทำงานคือการใช้ขดลวดเหนี่ยวนำทำให้เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น และเกิดแรกผลัก-ดูด ของสนามแม่เหล้ก ซึ่งเราสามารถสร้างรูปแบบของแรงที่เกิดจากmotorได้ออกมา2แบบคือ 1.Linear fore และ 2.ToqueMotorมีมากมายหลายชนิด ส่วนใหญ่ที่เราเห็นและพบกันบ่อยๆจะเป้นmotorที่ให้รูปแบบแรงแบบtoque หรือแบบหมุนนั่นเอง เช่น พัดลม เครื่องดูดฝุ่น เครื่องปั่น-บด-ผสมอาหาร เป็นต้น
แต่motorยังมีอีกมากมายหลายชนิดถ้าจำแนกตามประเภทไฟฟ้าที่จ่ายเข้าไปก้ได้2แบบ คือDC motor และ AC motor
DC motor คือ
motorที่รับไฟฟ้ากระเเสตรง สามารถควบคุมความเร็วได้ง่าย และเมื่อต้องการสับเปลี่ยนทิศทางการหมุนสามารทำได้ง่ายๆโดยการสับเปลี่ยนขั้วไฟเท่านั้น การหมุนจะถูกสับเปลี่ยนทันที
AC motor คือ
motorที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ เราแบ่งAC motorได้เป้น2แบบ Synchronous และAsynchronous
1.Asynchronous มีความสามารในการสร้างspeedได้คงที่กว่าDC motor มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า อีกทั้งยังราคาถูกกว่าด้วย แต่มีข้อจำกัดด้านการควบคุมระยะการหมุนที่แม่นยำ และในช่วงเริ่มต้นการทำงาน AC motorจะมีประสิทธิภาพต่ำ สว่นใหญ่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (เครื่องมือที่ตั้งอยุ่กับที่ เช่นสว่านแท่นเป็นต้น)
2.Synchronous เป้นAC motorที่มีประสิทธิภาพสูงความเร็วคงที่หรือปรับได้ มีเสียงรบกวนต่ำเช่นHysteresis motor
Motorแบบอื่นๆ
servo motor =>คือmotorที่มีความสารมารถในการควบคุมความเร็วรอบและtorqueได้ มี
stepper motor=>คือmotorที่มีความแม่นยำในการหมุน โดยโรเตอร์ของแม่เหล็กจะ
ประกอบด้วยแม่เหล้กถาวร ซึ่งทำให้มันสามารหมุนได้อย่างเป้นstepคือ หมุนแล้วหยุด หมุนแล้ว
หยุด เราสามารถควบคุมมันได้ด้วยวงจรอิเล้กรอนิกส์ ซึ่งทำให้มันสามารถหมุนและเปลี่ยนทิศทาง
หรือหยุดพัก และหมุนต่อไปได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมแรงละรอบได้ด้วย ซึ่ง
ความสามารถเหล่านี้ของstepper motor ได้มาจากรูปแบบของservoนั่นเอง ใช้มากในเครืองจักที่
ต้องการความแม่นยำสูง เช่นCNC , Hard disk เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น